เมื่อวันที่28ก.ย.นายภคพงศ์ศิริกันทรมาศผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการรฟม.ซึ่งมีนายสราวุธทรงศิวิไลอธิบดีกรมทางหลวง(ทล.)เป็นประธานว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-คลองบางไผ่ระยะทาง23กิโลเมตร(กม.) 16สถานีจากปัจจุบันค่าโดยสารอยู่ที่14-42บาทเป็น14-20บาทนอกจากนี้ในส่วนของการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าMRTสายสีม่วงและรถไฟฟ้าสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันจะเก็บค่าโดยสารของทั้ง2สายสูงสุดไม่เกิน20บาทเช่นกันแต่จะต้องเปลี่ยนถ่ายระบบณสถานีบางซ่อนภายในระยะเวลา30นาทีและใช้บัตรโดยสารใบเดียวกันซึ่งในช่วงแรกนี้ใช้ได้เฉพาะผู้ที่ถือบัตรEMVก่อน นายภคพงศ์กล่าวต่อว่าสำหรับมาตรการดังกล่าวในส่วนของเด็ก/ผู้สูงอายุจะได้รับส่วนลด50%และนักเรียน/นักศึกษาจะได้รับส่วนลด10%จากอัตราค่าโดยสารใหม่ด้วยอย่างไรก็ตามคาดว่ารฟม.จะเริ่มปรับลดค่าโดยสารได้ตั้งแต่วันที่1ธ.ค.66เป็นต้นไปตลอดระยะเวลาเปิดให้บริการ(05.30น. – 24.00น.)โดยในวันที่29ก.ย.66รฟม.จะนำเสนอเรื่องการปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าMRTสายสีม่วงต่อกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาต่อไปเบื้องต้นการปรับลดค่าโดยสารดังกล่าวจะดึงดูดให้ประชาชนหันมาใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงเพิ่มขึ้นประมาณ17%หรือประมาณ1หมื่นคนต่อวันจากปัจจุบันผู้โดยสารอยู่ที่ประมาณ5.6หมื่นคนต่อวันเป็นประมาณ6.6หมื่นคนต่อวันคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง นายภคพงศ์กล่าวอีกว่านอกจากนี้มาตรการดังกล่าวยังสามารถประเมินตีมูลค่าเป็นผลตอบแทนทางเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ประมาณ900ล้านบาทต่อปีประกอบด้วยการประหยัดค่าใช้จ่ายในการรถยนต์,ประหยัดเวลาการเดินทาง,ค่าความสุข,ลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าเมื่อผู้โดยสารมาใช้บริการมากขึ้นขบวนรถของสายสีม่วงจะเพียงพอต่อการให้บริการปัจจุบันมีอยู่23ขบวนรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ2แสนคนต่อวัน นายภคพงศ์กล่าวต่อว่าในส่วนรายได้ของรถไฟฟ้าสายสีม่วงนั้นจากการดำเนินมาตรการดังกล่าวรฟม.จะสูญเสียรายได้ประมาณ190ล้านบาทต่อปีจากรายได้เฉลี่ยประมาณ500ล้านบาทต่อปีโดยปัจจุบันผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ย8สถานีมีค่าโดยสารเฉลี่ยอยู่ที่23บาทต่อคนและผู้โดยสารที่ใช้บริการสายสีม่วงเชื่อมสายสีแดงมีประมาณ200คนต่อวันอย่างไรก็ตามรฟม.จะไม่ขอสนับสนุนเงินชดเชยในส่วนนี้จากรัฐบาลเนื่องจากตั้งแต่ปี61รฟม.มีผลการดำเนินงานมีกำไรและได้นำเงินรายได้ส่งให้กระทรวงการคลังมาตั้งแต่ปี61เพียงแต่รฟม.จะต้องแจ้งกระทรวงการคลังว่าตั้งแต่ปี67จะส่งเงินรายได้ให้กระทรวงการคลังน้อยลงซึ่งปกติจะส่งให้ประมาณ20-25%ของกำไรสุทธิ นายภคพงศ์กล่าวด้วยว่าในปี63รฟม.นำส่งรายได้เข้าคลังประมาณ300ล้านบาท,ปี64ประมาณ467ล้านบาท,ปี65ประมาณ311ล้านบาทและปี66ประมาณ223ล้านบาทอย่างไรก็ตามรฟม.จะประเมินผลการดำเนินงาน1ปีเพื่อคาดการณ์จุดคุ้มทุนที่รฟม.จะไม่ต้องชดเชยรายได้ที่หายไปเบื้องต้นคาดว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ5ปีส่วนการเจรจากับบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพจำกัด(มหาชน)หรือบีอีเอ็มเพื่อพิจารณาเข้าร่วมลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า20บาทตลอดสายนั้นปัจจุบันบีอีเอ็มอยู่ระหว่างประเมินรายได้ที่จะขาดหายไปและกระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการมาเจรจากับเอกชนเพื่อปรับลดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าให้เหลือไม่เกิน20บาททุกสาย.คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง